5 เทคนิคจัดไฟล์ให้ตัดเร็ว – ไม่เสียเศษผ้า เพราะ “จัดดี = ตัดคุ้ม” กับระบบ Auto Nesting ของ EMMA Cutting Machine (เครื่องตัดผ้าและหนังสังเคราะห์อัตโนมัติ)
- Kattarin Kophrakong
- 2 ก.ค.
- ยาว 1 นาที

ในการผลิตสินค้าจากวัสดุอย่าง ผ้า หนัง PU EVA หรือฟองน้ำต้นทุนวัสดุอาจสูงกว่าค่าแรงเสียอีก – โดยเฉพาะเมื่อมีเศษที่ใช้ไม่ได้ในทุกล็อตผลิต
การ “จัดไฟล์ตัดให้ดี” จึงกลายเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยโรงงาน ลดของเสีย เพิ่มจำนวนตัดต่อรอบ และลดเวลาโดยรวม
บทความนี้จะมาแนะนำ 5 เทคนิคการจัดไฟล์ก่อนตัด ให้ได้งานเร็วขึ้น คุ้มวัสดุมากขึ้น พร้อมแทรกฟีเจอร์ของ EMMA Cutting Software ที่ช่วยให้เรื่องนี้ง่ายกว่าที่คิด
✅ เทคนิคที่ 1: ใช้ Auto Nesting ทุกครั้ง – อย่าจัดด้วยมือ
การลากวางไฟล์ด้วยมืออาจดูเหมือนประหยัดเวลา แต่ในความจริงแล้ว:
มักมีพื้นที่ว่างระหว่างชิ้นงานมากเกินไป
จัดไม่แน่นเท่าระบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะเมื่อมีรูปทรงโค้ง
EMMA Software มาพร้อมระบบ Auto Nesting (จัดเรียงไฟล์อัตโนมัติ) ที่สามารถ:
เรียงไฟล์หลายชิ้นให้อยู่ในพื้นที่น้อยที่สุด
วางชิ้นงานให้หมุนตามมุมได้เพื่อ “แทรกช่องว่าง”
ปรับระยะห่างอัตโนมัติเพื่อให้ตัดได้ปลอดภัย แต่ไม่เปลืองผ้า
จากการใช้งานจริง Nesting ที่ดีช่วยประหยัดวัสดุได้เฉลี่ย 8–15% ต่อล็อต
✅ เทคนิคที่ 2: จัดไฟล์แยกตามชนิดวัสดุ
อย่ารวมไฟล์หลายวัสดุไว้ใน Nest เดียวกัน เช่น หนัง PU กับ EVA เพราะ:
วัสดุแต่ละชนิดมีความหนา / แรงต้าน / แนวลายต่างกัน
ถ้าตัดพร้อมกันอาจต้องเผื่อช่องมากขึ้น ทำให้เสียพื้นที่
EMMA Software รองรับการตั้งค่าตามวัสดุแต่ละชนิดสามารถบันทึก "ชุดโปรไฟล์การตัด" ที่ต่างกันไว้ล่วงหน้า เช่น
EVA หนา 5 มม. ใช้ใบมีดแรงสูง
PU บาง 1 มม. ใช้ใบมีดแบนตื้น
✅ เทคนิคที่ 3: เลี่ยงการวางไฟล์ตามรูปแบบชิ้นงานเดิม
บางโรงงานนำไฟล์ที่ออกแบบมาสำหรับใช้พิมพ์ตัด (Die cut) มาใช้กับเครื่องอัตโนมัติโดยไม่เปลี่ยนผลคือไฟล์เรียงตัวห่างเกินไปเพราะเผื่อขอบพิมพ์
คำแนะนำคือ: นำไฟล์มาปรับ Lay-out ใหม่ในโปรแกรม EMMA CADสามารถหมุน ย่อ หรือแทรกให้แน่นขึ้นได้อีกหลายเปอร์เซ็นต์
✅ เทคนิคที่ 4: ใช้ Group Function เพื่อวางชิ้นที่มีคู่กัน
ถ้าคุณต้องตัดชิ้นงานที่ต้อง “เป็นคู่” หรือ “ต่อแนวลาย” เช่น
หน้า–หลังของรองเท้า
ซ้าย–ขวาของชิ้นกระเป๋า
หรือชิ้นต่อเนื่องลายเดียวกัน
EMMA Software มีฟีเจอร์ Grouping ที่ให้คุณจัดชิ้นงานเป็นกลุ่มย่อยแล้วระบบจะ วางกลุ่มนั้นโดยไม่แยกออกจากกัน อัตโนมัติ
เหมาะกับการคุมตำแหน่ง–ทิศทางของลาย และช่วยลดของเสียจากการสลับชิ้น
✅ เทคนิคที่ 5: ปรับระยะขอบ (Margin) ตามวัสดุจริง
หลายโรงงานใช้ระยะห่างระหว่างชิ้นงาน (Margin) เท่ากันทุกวัสดุ เช่น 5 มม.ทั้งที่วัสดุบางชนิดเช่น EVA หนา 10 มม. อาจต้องเผื่อถึง 7 มม.ขณะที่ผ้าบางหรือหนังเทียมเคลือบผิว อาจใช้แค่ 2–3 มม. ก็พอ
EMMA Nesting System ให้คุณกำหนดค่า Margin แบบ แยกตามวัสดุและชิ้นงาน ได้จึงสามารถใช้พื้นที่คุ้มค่าสูงสุดโดยไม่เสียความปลอดภัยในการตัด
สรุป: “ตัดเร็วขึ้น ไม่ได้เริ่มที่ใบมีด แต่เริ่มที่ไฟล์”
หลายคนเข้าใจว่าการตัดเร็วคือต้องเพิ่มรอบเครื่องหรือใช้ใบมีดแรงขึ้นแต่ในความจริง การจัดไฟล์ก่อนตัดคือปัจจัยสำคัญที่ “คุมต้นทุน + ลดของเสีย” ได้มากที่สุด
และเมื่อรวมกับ ฟีเจอร์ Auto Nesting + CAD Software ของ EMMAคุณก็สามารถใช้วัสดุได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทุกล็อต
📌 สนใจทดลอง Nest ไฟล์จริงกับวัสดุของคุณ หรือขอคู่มือการใช้งานซอฟต์แวร์ติดต่อทีมของเราได้เลย

สนใจสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อสอบถาม
☎️ 02-0966322 หรือ 099-1936322
Comments